สถานศึกษาในตำบลเกาะยอ จังหวัดสงขลา
โรงเรียนวัดแหลมพ้อ
โรงเรียนวัดแหลมพ้อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2476 เดิม ตั้งอยู่ในบริเวณวัดแหลมพ้อ หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ในปี พ.ศ. 2534พระครูวิจิตรธรรมวาที เจ้าอาวาสวัดแหลมพ้อ มีโครงการสร้างพระพุทธไสยาสน์(พระนอน)ขนาดใหญ่ ยาว 33 เมตร และจะทำการก่อสร้างที่บริเวณสนามกีฬาของโรงเรียน จึงทำให้โรงเรียนคับแคบ ไม่สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ครบตามกระบวนการ นายนิตย์ พงศ์พฤกษ์ ครูใหญ่ในขณะนั้น จึงทำเรื่องขออนุญาตย้ายโรงเรียนออกจากวัดแหลมพ้อ ไปสร้างโรงเรียนแห่งใหม่ ณ สวนพ่อท่าน หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะยอ บนพื้นที่ประมาณ 18 ไร่ อันเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดแหลมพ้อเช่นกัน พระครูวิจิตรธรรมวาทีเจ้าอาวาส ได้ลงนามอนุญาตให้โรงเรียน ใช้ที่ธรณีสงฆ์ของวัดแหลมพ้อได้ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ทางโรงเรียนทำหนังสือขออนุญาตย้ายโรงเรียนออกจากวัด ต่อ สปอ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2534 ทาง สปอ.เมืองสงขลา เห็นชอบและทำเรื่องเสนอต่อ สปจ.สงขลา สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสงขลา โดย กปจ. สงขลา มีมติเห็นชอบให้ย้ายโรงเรียน ได้เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2534 และทางโรงเรียนเสนอของบประมาณค่าที่ดินสิ่งก่อสร้างในปีงบประมาณ 2536 ได้รับพิจารณาอนุมัติจำนวน 3 รายการ คือ
อาคารเรียนแบบ สปช. 105/29 2 ชั้น 10 ห้องเรียน 1 หลัง งบประมาณ 2,400,000 บาท
อาคารอเนกประสงค์แบบ สปช. 201/26 1 หลัง งบประมาณ 310,000 บาท
ส้วมแบบ สปช. 601/26 1 หลัง งบประมาณ 90,000 บาท
เริ่มปลูกสร้างอาคารเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2536 แล้วเสร็จทุกหลังเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 และย้ายโรงเรียน มาอยู่ที่โรงเรียนวัดแหลมพ้อแห่งใหม่ อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ทำพิธีเปิดโรงเรียนแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2537 ปัจจุบันโรงเรียนวัดแหลมพ้อ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ระยะเวลาเริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลารวม 77 ปี
เริ่มปลูกสร้างอาคารเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2536 แล้วเสร็จทุกหลังเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 และย้ายโรงเรียน มาอยู่ที่โรงเรียนวัดแหลมพ้อแห่งใหม่ อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ทำพิธีเปิดโรงเรียนแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2537 ปัจจุบันโรงเรียนวัดแหลมพ้อ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ระยะเวลาเริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลารวม 77 ปี
นายสุพัฒ แสงจันทร์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนวัดแหลมพ้อ ณ. ปัจจุบัน
โรงเรียนวัดท้ายยอ
โรงเรียนวัดท้ายยอตั้งอยู่ หมู่ที่ 9 ตำบลเกาะยอ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา รหัสไปรษณีย์ 90100 โทรศัพท์
สร้างเมื่อ พ.ศ.2460 เปิดสอน ระดับปฐมวัย และระดับประถมศึกษา มีนักเรียน 119 คน ครู 12 คน
วิสัยทัศน์ โรงเรียนวัดท้ายยอจัดการศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิต ได้มาตรฐานตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานและใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงสืบสานวัฒนธรรมไทย
คำขวัญ สุขภาพดี มีคุณธรรม นำวิชาการ สืบสานวัฒนธรรมไทย
ปรัชญาโรงเรียน ความซื่อสัตย์ ความขยัน และความอดทน นำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต
สีประจำโรงเรียน ฟ้า - ขาว
สุภาษิต ขันติ - โสรัจจะ ธรรมทำให้คนงาม
ต้นไม้ประจำโรงเรียน ต้นยอ
โรงเรียนวัดท้ายยอตั้งอยู่ หมู่ที่ 9 ตำบลเกาะยอ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา รหัสไปรษณีย์ 90100 โทรศัพท์
สร้างเมื่อ พ.ศ.2460 เปิดสอน ระดับปฐมวัย และระดับประถมศึกษา มีนักเรียน 119 คน ครู 12 คน
วิสัยทัศน์ โรงเรียนวัดท้ายยอจัดการศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิต ได้มาตรฐานตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานและใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงสืบสานวัฒนธรรมไทย
คำขวัญ สุขภาพดี มีคุณธรรม นำวิชาการ สืบสานวัฒนธรรมไทย
ปรัชญาโรงเรียน ความซื่อสัตย์ ความขยัน และความอดทน นำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต
สีประจำโรงเรียน ฟ้า - ขาว
สุภาษิต ขันติ - โสรัจจะ ธรรมทำให้คนงาม
ต้นไม้ประจำโรงเรียน ต้นยอ
สถาบันทักษิณคดีศึกษา
สถาบันทักษิณคดีศึกษา
ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านอ่าวทราย ตำบลเกาะยอ บริเวณใกล้เชิงสะพานติณสูลานนท์ช่วงที่ 2 สถาบันตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2521เพื่อศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ มีพื้นที่ทั้งหมด 23 ไร่ ลักษณะของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบภาคใต้ แบ่งออกเป็น 4 อาคาร โดยแต่ละอาคารจะแบ่งออกเป็นห้อง ๆ แสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ โบราณวัตถุที่เกิดจากภูมิปัญญา ของคนในท้องถิ่น เครื่องประดับศาตราวุธที่ใช้กันในภาคใต้ เช่น กริช มีดชายธง มีดหางไก่ แสดงผ้าทอพื้นเมือง เช่นผ้าทอพุมเรียง ผ้าทอปัตตานี ห้องแสดงกระต่ายขูดมะพร้าวรูปทรงต่าง ๆ ที่มีรูปแบบหาชมได้ยากห้องแสดงการละเล่นพื้นเมืองเช่น หนังตะลุง โนรา ลิเกป่า ห้องแสดงวิถีชีวิตชาวใต้ เช่น การแสดงการละเล่นและของเล่นเด็กเช่น การเล่นซัดราว การเล่นว่าวลูกข่าง ห้องแสดงประเพณีการบวช ห้องแสดงการรักษาพยาบาลแบบโบราณ สถาบันมีห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยว ห้องสัมมนา และร้านขายสินค้าพื้นเมือง เช่น หัตถกรรมกระจูด หัตถกรรมปาหนันหัตถกรรมย่านลิเพา ผ้าทอเกาะยอ ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว เครื่องเงิน เป็นต้น สถาบันได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเภทแหล่งท่องเที่ยวดีเด่นทางวัฒนธรรมและโบราณสถาน ปี 2543 จากจุดชมวิวของสถาบันสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบสงขลาเปิดให้ผู้สนใจ เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 8.30-17.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 7433 1184-9
ประวัติความเป็นมา
ความเป็นมาของสถาบันทักษิณคดีศึกษา เริ่มต้นตั้งแต่วิทยาลัยวิชาการศึกษา ได้เปิดวิทยาเขต ประจำภาคใต้ขึ้นที่จังหวัดสงขลา เมื่อ พ.ศ. 2511 เนื่องจากนิสิต ที่เรียนวิชาโทภาษาไทย ต้องเรียน รายวิชาคติชนวิทยา นิสิตรุ่นแรกได้ออกปฏิบัติภาคสนามระหว่างวันที่ 16 – 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 ณ อำเภอสทิงพระและอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ผลจากการเก็บข้อมูลครั้งนั้นทำให้ได้ ้ข้อมูลวัฒนธรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นวัตถุของจริง สมุดข่อย และข้อมูลที่เป็นมุขปาฐะ ข้อมูลเหล่านั้นนับเป็นองค์ความรู้ที่มีคุณค่ายิ่ง นอกจากเป็นแรงบันดาลใจให้มีการจัดเก็บอย่าง เป็นระบบและมีเป้าหมาย จนเกิดเป็น “ห้องวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้” แล้ว ยังก่อให้เกิดเป็น โครงการ “ศูนย์ส่งเสริมภาษาและวัฒนธรรม ภาคใต้” ขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2518 และในปลายปีเดียวกันนี้ได้รับงบประมาณแผ่นดินเพื่อก่อสร้างอาคารเรียนไทยคดีศึกษา และศูนย์ ส่งเสริม ภาษาและวัฒนธรรมภาคใต้ 1 หลัง เป็นเงิน 4,589,200 บาท โดยสร้างขึ้นในบริเวณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ได้เสด็จฯ เปิดอาคารนี้เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2522 ต่อมาทบวงมหาวิทยาลัย ได้ให้ ความเห็นชอบยกฐานะศูนย์ส่งเสริมฯ ขึ้นเป็น “สถาบันทักษิณคดีศึกษา” ในคราวประชุมกรรมการ ทบวงฯ ครั้งที่ 5/2523 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2523 และรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2523 ต่อมาได้มีการเตรียมขยายงานของสถาบันทักษิณคดีศึกษา โดยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้นำเข้าบรรจุไว้ในแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาระยะที่ 5 (พ.ศ. 2525 – 2529 ) และ การขยายงานได้กำหนดให้ดำเนินการในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา แต่ในระหว่างที่โครงการเข้าสู่การพิจารณา สะพานติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นสะพานเชื่อม ระหว่าง เกาะยอกับแผ่นดินใหญ่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2529 สถาบันทักษิณคดีศึกษา ซึ่งขณะนั้น ศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันฯ ได้พิจารณาเห็นว่า ทรัพยากรทางด้านวัฒนธรรมของภาคใต้ มีนัยสำคัญยิ่งต่อการที่จะนำมาใช้ ประโยชน์ใน การพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและการปกครอง แต่จะต้อง ขยายงานด้าน พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยาและด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวโยงกันให้ครบวงจรและมีศักยภาพสูงพอ ซึ่งขณะนั้น สถาบันฯ ได้เตรียมาการไว้มากพอที่จะเป็นฐานไปสู่ศักยภาพอันสมบูรณ์ได้ แต่จะต้อง ย้ายสถานที่ ตั้งสถาบันฯ ไปยังที่แห่งใหม่ที่สามารถดำเนินการธุรกิจทางวัฒนธรรมได้สมบูรณ์ โดยเฉพาะการ มีพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยาซึ่งจะต้องใช้พื้นที่ในการดำเนินการมาก จากการศึกษา จัดหาสถานที่ ได้พบว่าบริเวณเกาะยอเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด คือบริเวณบ้านอ่าวทราย หมู่ที่ 1 โดยในระยะ แรกสามารถจัดหาที่ดินสำหรับก่อสร้างได้ประมาณ 22ไร่ สำนักงบประมาณได้อนุมัติงบประมาณแผ่นดินให้ก่อสร้างสถาบันทักษิณคดีศึกษาแห่งใหม่ ที่บ้านอ่าวทราย หมู่ที่1 ตำบลเกาะยอ โดยจัดสรรงบประมาณให้ จำนวน 21,374,097 บาท โดยผูกพันเป็นระยะเวลา 3 ปี (งบประมาณปี 2530 – 2532 ) การก่อสร้างได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2530 โดย ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นประธานประกอบพิธี เมื่อการก่อสร้าง แล้วเสร็จสถาบันฯ ได้ ย้ายที่ทำการจาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภาคใต้ มาอยู่ที่เกาะยอในปี พ.ศ. 2533 และได้ทำพิธีอย่างเป็น ทางการเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2534 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ ได้ทรงพระกรุณาเสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธี
เปิดดูใน Panoramio
View สถานศึกษาเกาะยอ in a larger map
View Larger Map
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น